รัฐบาลเร่งแผนเปิดใหม่ สถานบันเทิงยามค่ำคืนจะยังคงปิดให้บริการใน 17 จังหวัดในช่วงเริ่มต้นของการเปิดประเทศอีกครั้งสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนจาก 46 ประเทศในเดือนหน้า
ขณะเดียวกัน เคอร์ฟิวช่วงกลางคืนที่กำหนดเพื่อช่วยควบคุมการแพร่กระจายของโควิด-19 จะถูกยกเลิกใน 17 จังหวัด รวมทั้งกรุงเทพฯ ในวันที่ 31 ต.ค.
ธนากร วังบุญคงชนะ โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ไทยพร้อมต้อนรับผู้มาเยือนจากต่างประเทศที่ได้รับวัคซีนครบชุดจาก 46 ประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. แต่ยังต้องดูกันต่อไปว่าจะมีสักกี่คนที่จะเดินทางถึง
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (CCSA) กำลังรอข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายธนกร กล่าว
รัฐบาลเร่งแผนเปิดใหม่
“เราได้ประกาศรายชื่อเริ่มต้นของ 46 ประเทศแล้ว เมื่อใดและหรือไม่ที่จะมาถึงนั้นต้องรอดู เรากำลังรอข้อมูลอยู่” นายธนากร กล่าว
เมื่อเย็นวันพฤหัสบดี นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา โพสต์บนเฟซบุ๊กว่า ไทยจะเปิดประเทศใหม่รับนักท่องเที่ยวจาก 46 ประเทศ แทนที่จะเป็นเพียง 10 ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำจากโควิด-19 ที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.
เขาไม่ได้ระบุชื่อประเทศในโพสต์ แต่เขียนว่าตอนนี้จำเป็นต้องเร่งการเปิด
นักท่องเที่ยวจาก 46 ประเทศ (ดูภาพประกอบ) ซึ่งอธิบายว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำกลุ่มแรก สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยทางอากาศได้โดยไม่ต้องกักกัน หากพวกเขาได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วและมีหลักฐานว่ามีผลการทดสอบเป็นลบก่อนการบิน พวกเขาต้องตกลงที่จะทำการทดสอบอีกครั้งเมื่อเดินทางมาถึง
นายกรัฐมนตรียังสั่งยุติเคอร์ฟิว 17 จังหวัด รวมทั้งกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. เพื่อสนับสนุนการเปิดประเทศอีกครั้ง คำสั่งดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
โดยระบุว่าสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศกำลังดีขึ้นด้วยจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่มีเสถียรภาพและการฟื้นตัวของผู้ป่วยเร็วขึ้น และจำเป็นต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
ดังนั้นเคอร์ฟิวจะสิ้นสุดในเวลา 23.00 น. ของวันที่ 31 ต.ค. ใน 17 จังหวัด “แซนด์บ็อกซ์” ที่ได้รับการประกาศเขตควบคุมสูงสุดและเข้มงวด แต่มีความสำคัญด้านการท่องเที่ยวและกำหนดให้เปิดอีกครั้ง
จำนวนคนในการชุมนุมสาธารณะในเขตเปิดใหม่นักท่องเที่ยวจะต่อยอดที่ 500 คน
สถานบันเทิงใน 17 จังหวัดยังคงปิดให้บริการ รวมทั้งผับ บาร์ และร้านคาราโอเกะ แต่ผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่สามารถเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดใหม่ได้
นายอภิษมัย ศรีรังสรรค์ โฆษกหญิงของศบค. กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่าในวันที่ 1 พ.ย. ประเทศไทยจะยุติการกักกันผู้ที่เดินทางมาด้วยวัคซีนจาก 46 ประเทศ
ผู้มาเยือนจากประเทศเหล่านี้จะต้องอยู่ในประเทศนั้นอย่างน้อย 21 วันก่อนออกเดินทาง และได้รับยาฉีดครั้งที่สองอย่างน้อย 14 วันก่อนเที่ยวบินมายังประเทศไทย
พวกเขาต้องมีการทดสอบ RT-PCR ที่กลับมาเป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเที่ยวบินและมีประกันสุขภาพอย่างน้อย 50,000 เหรียญสหรัฐ
เมื่อมาถึง ผู้เข้าชมจะได้รับการทดสอบ RT-PCR อีกครั้ง และสามารถเดินทางต่อไปได้โดยไม่ต้องกักกันหากผลการทดสอบเป็นลบ
พวกเขาจะต้องดาวน์โหลดแอปโทรศัพท์ที่จะติดตามที่อยู่ของพวกเขาด้วย
นพ.อภิษมัย กล่าว คนไทยที่เดินทางออกจากประเทศไทยไปก่อนหน้านี้ใน 46 ประเทศ แต่อาศัยอยู่ที่นั่นน้อยกว่า 21 วัน จะไม่ถูกกักกันและไม่จำเป็นต้องมีประกันสุขภาพ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ดร.อภิษมัย กล่าว
มาตรการห้ามกักกันเหล่านี้ใช้กับเที่ยวบินขาเข้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย สนามบินอู่ตะเภา และเที่ยวบินเช่าเหมาลำที่สนามบินบุรีรัมย์
การมาถึงด้วยเที่ยวบินประเภทอื่นจะต้องเข้าสู่โปรแกรม “แซนด์บ็อกซ์” เช่น ภูเก็ต เกาะสมุย เกาะพังงา และกระบี่ ภายใต้เงื่อนไขเดิมหลังเดินทางมาถึงเดียวกัน แต่มีการทดสอบเพิ่มเติมอีกหกหรือเจ็ดวันต่อมา
อย่างไรก็ตาม ธเนศ สุพรสหรังสี ประธานสภาการท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติบางคนอาจยังลังเลที่จะมาเยี่ยมเยียนเนื่องจากข้อจำกัดด้านอื่นๆ
ตัวอย่างเช่น หากนักท่องเที่ยวจากจีนมาเยือนประเทศไทย เมื่อพวกเขากลับประเทศ พวกเขาจะต้องถูกกักกัน 14 วันหรือ 21 วันในบางเมือง เขากล่าว
คำถามที่ยังไม่มีคำตอบอีกข้อที่อาจขัดขวางนักท่องเที่ยวก็คือว่าแอพ Thailand Plus tracing จะมาแทนที่ใบรับรองการเข้าเมืองหรือไม่ เขากล่าวเสริมว่ารายชื่อของ 46 ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำนั้นไม่รวมรัสเซียซึ่งมีพลเมืองเป็นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในพัทยา นายธเนศ กล่าว