วันนี้เราจะไปทุกท่านเข้าสู่ประเทศ ญี่ปุ่น แต่ถ้าพาไปโตเกียว เกียวโต โอซาก้า มันก็คงหาอ่านที่ไหนก็ได้ วันนี้เราจะพาไปชมกับธรรมชาติเป็นแหล่งผลิตเนื้อวัวชั้นยอดของโลก ใช่แล้วครับเราจะพาท่านไปเมืองมัตสึซากะ
การเดินทางมาที่นี่ นั้นสะดวกมาก สามารถมาได้ทั้งรถไฟสาย JR และ Kintetsu ลงสถานีมัตสึซากะ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ อิเสะชิม่า เป็นย่านการค้าในสมัยเอโดะซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญ และยังคงเป็นหนึ่งในเมืองเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดในจังหวัดมิเอะในมัตสึซากะ อดีตเมืองค้าขายเก่าที่รุ่งเรือง ในปัจจุบันยังมีซากปราสาทและจวนของนักรบให้ชมออยู่ ทั้งตึกรามบ้านช่องยังอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแบบย้อนยุคอีกด้วย จุดที่น่าสนใจในย่านนี้คือ
เรือนโกะโจบังยาชิกิในมัทสึซากะ เคยใช้เป็นเรือนพักอาศัยของซามูไรสมัยที่เจ้าแคว้นคิชูโยกย้ายถิ่นฐานเข้ามาเพื่อพิทักษ์ปราสาทมัทสึซากะ ลักษณะการปลูกสร้างอาคารเรียงยาวต่อเป็นแนวเช่นนี้ ถือว่าค่อนข้างแปลกหาได้ยากในประเทศญี่ปุน และจนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีผู้คนอาศัยอยู่จริง ย่านเมืองเก่าที่เงียบสงบตั้งอยู่หลังแนวรั้วกับทางเดินหิน เป็นคฤหาสน์ของนักรบที่ย้ายเข้าไปเพื่ออารักขาปราสาทมัตสึซากะ อนุรักษ์โครงสร้างสมัยโบราณเอาไว้ในขณะที่ยังมีทายาทอาศัยอยู่ในปัจจุบัน จัดว่าเป็นเรือนที่พบได้ยากในญี่ปุ่น ภายในเมืองมัตสึซากะ ที่แห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ถ้ากลัวหรือไม่มั่นใจ ก็ลองไปถามที่ประชาสัมพันธ์ตรงสถานีได้ มีข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษเยอะเลย
จากหน้าสถานี จะเจอกับถนนคนเดินยาวเหยียด มีร้านค้ามากมาย มันก็ต้องแน่ว่าเต็มไปด้วยร้านประเภทเนื้อหลายร้าน สามารถลองชิมได้หนำใจและที่สำคัญราคาไม่แพงเลย ถ้าคนท้องที่แนะนำจะมี มีโคโรเกะไส้เนื้อสับเป็นอาหารว่างที่แนะนำ และยังมีเมนจิคัทสึ และ คร็อกเก้ถ้ากลัวเลือกร้านไม่ถูกเดินตรงมาอีกนิดทีจะเจอกับที่รวมข้อมูลเกี่ยวกับ Matsusaka
มาที่นี่ถ้าไม่ได้ลิ้มรสของเนื้อชั้นยอดแล้วถือว่ามาไม่ถึง ทำไมเนื้อที่นี่ถึงโด่งดังละ เริ่มจากการคัดเลือกวัวต้องเป็นวัวญี่ปุ่นดำ เพศเมียที่ไม่ผ่านการผสมพันธุ์และต้องเลี้ยงในมัตสึซากะไม่ต่ำกว่า30สัปดาห์ และการให้อาหารยังเป็นความลับเฉพาะของฟาร์มนั้นๆด้วยเพื่อให้ได้ไขมันแทรกและมีกลิ่นหอมเย้ายวนใจ ว่ากันว่าเนื้อชนิดนี้นำไปทานเป็นชาบูคือที่สุดในโลก มาแล้วต้องลองให้ได้ ราคาไม่แพงเลย
อันนาปุรณะ เบสแคมป์ จุดเริ่มต้นของผู้พิชิตหิมาลัย
ขอบคุณเนื้อหอมๆจาก บาคาร่าฟรีเครดิต 2021
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *